กรุ๊ปน้ำมันเครื่อง ชนิดน้ำมันเครื่อง

Read Time:9 Minute, 56 Second

น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อเครื่องยนต์ มีหน้าที่หล่อลิ้นชิ้นส่วนต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ และยังมีส่วนช่วยระบายความร้อนออกจากชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์อีกด้วย หากไม่มีน้ำมันเครื่อง เครื่องยนต์ก็จะเกิดความเสียหายจนใช้งานไม่ได้ในที่สุด การเลือกใช้เบอร์น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมก็มีความสำคัญ โดยเราควรจะอ้างอิงจากคู่มือการใช้รถ จะทำให้เราเลือกเบอร์น้ำมันได้เหมาะสม โดยที่เบอร์น้ำมันเครื่องนั้นจะมีไว้ระบุค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง ยกตัวอย่าง เช่น คู่มือการใช้รถแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องความหนืดเบอร์ 5W-30 เราก็สามารถแจ้งร้านค้าหรืออู่เข้าใช้บริการได้ทันที ว่า specs เดิมโรงงานของเราแนะนำอยู่ที่ 5W-30 ทางร้านหรืออู่ก็จะหาน้ำมันเครื่องที่ตรงกันหรือใกล้เคียงที่สุดมาบริการเราได้ตรงตามที่กำหนด

นอกจากความหนืดแล้ว เราจะเห็นว่าน้ำมันเครื่องนั้นมีทั้งเครื่องหมายระบุมาตรฐานและอื่น ๆ อีกสารพัด และเราจะเห็นว่าน้ำมันเครื่องก็มีหลากหลายรูปแบบและมีราคาที่ค่อนข้างจะหลากหลายมาก อะไรที่ทำให้น้ำมันเครื่องราคาต่างกัน เรามาดูกันไปย่อหน้าถัด ๆ ครับ

พูดแบบภาษาคนปกติ นอกจากการเลือกใช้จากความหนืดที่เหมาะสมแล้ว ก็ยังจะมีเรื่องของการแบ่งกลุ่มน้ำมันเครื่อง หรือ Group นั่นเอง น้ำมันเครื่องจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ในตลาดได้เป็นน้ำมันเครื่องปกติ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ PAO โดยจะมีการเรียก Group แบ่งออกเป็นตัวเลข 1 หรือ I, 2 หรือ II, 3 หรือ III, 4 หรือ IV และ 5 หรือ V

โดยจะมีรายละเอียดของแต่ละ Group ดังนี้

Group I Mineral Oil
– น้ำมันเครื่องพื้นฐานที่ใช้ base จากน้ำมันปิโตรเลียมที่ผ่านกระบวนการมาตรฐาน
เป็นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานระดับเริ่มต้น มีสิ่งเจือปนในปริมาณที่มากกว่าเมื่อเทียบกับน้ำมันหล่อลื่น group อื่น ๆ มีอายุการใช้งานแบบทั่วไป เน้นเปลี่ยนถ่ายบ่อยตามการใช้งาน เมื่อยังสภาพดีและไม่หมดอายุ จะทนความร้อนใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดที่ประมาณ 240F หรือ 115C และสามารถทนโหลดในช่วงสั้น ๆ เพิ่มได้อีก 30F ก่อนเสียสภาพ คือ 270F หรือประมาณ 132C อายุการใช้งานประมาณ 2,000-3,000 พันกิโลเมตร แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน มีความผันผวนตามอุณหภูมิที่สูงมาก เมื่อเย็นลงจะหนืด เมื่อร้อนก็จะเหลวมาก

Group II Synthetic Blend
– น้ำมันเครื่องที่ใช้ base เป็นน้ำมันปิโตรเลียมที่ผ่านกระบวนการให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น
– จัดอยู่ในกลุ่มน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
ผ่านกระบวนการระดับนึง มักจะใช้กระบวนการ hydrotreat เพื่อเพิ่มคุณภาพจากน้ำมันปิโตรเลียมพื้นฐาน ลดสิ่งเจือปน อายุการใช้งานจะสูงกว่าเดิมประมาณนึง ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่า Group I ป้องกันการเกิด oxidation ได้ดีกว่า คือน้ำมันเครื่องที่มีส่วนผสมทั้งจากน้ำมันธรรมดาที่ผ่านกระบวนการและสารประกอบสังเคราะห์อื่น ๆ ตามสูตรที่ผู้ผลิตกำหนดมา เป็นที่นิยมพอสมควร แม้แต่ศูนย์บริการรถยนต์ก็ยังเลือกใช้น้ำมันเครื่อง group II ให้กับรถยนต์หลายรุ่นในยุคก่อนหน้านี้ อายุการใช้งานประมาณ 5 พันกิโลเมตรในการใช้งานแบบปกติ

Group III Synthetic Oil
– น้ำมันเครื่องที่ใช้ base เป็นน้ำมันปิโตรเลียมที่ผ่านกระบวนการในขั้นที่สูงกว่า Group II ให้มีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
– จัดอยู่ในกลุ่มน้ำเครื่องสังเคราะห์จากปิโตรเลียม
อายุยาว ใช้งานได้ 6 เดือนสบายมาก ทนความร้อนได้มากกว่า เมื่อยังสภาพดีและไม่หมดอายุ จะทนความร้อนใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดที่ประมาณ 270F หรือ 132C และสามารถทนโหลดในช่วงสั้น ๆ เพิ่มได้อีก 30F ก่อนเสียสภาพ คือ 300F หรือประมาณ 148C

น้ำมันเครื่อง group III นอกเหนือจาก base ที่เป็นน้ำมันปิโตรเลียมสังเคราะห์ที่มีคุณภาพดี brand ต่าง ๆ ก็มักจะมีการผสมสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ลงไปเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นและยืดอายุการใช้งาน เป็นน้ำมันเครื่องกลุ่มที่คุ้มค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับราคาและประสิทธิภาพในการปกป้อง ยืดระยะเปลี่ยนถ่ายได้สูงสุดถึง 1 ปีเท่ากับ Group IV และเป็นน้ำมันเครื่องกลุ่มที่ผู้ผลิตรถยนต์และศูนย์บริการรถยนต์เลือกใช้และนำมาให้บริการเมื่อถึงระยะกับรถยนต์ในยุคปัจจุบันเป็นหลัก ด้วยคุณสมบัติปกป้องได้ดี ใช้ได้นาน ทำให้คุ้มค่าต่อราคาที่จ่ายอย่างมาก

น้ำมันเครื่อง Group III จะไหลได้ดีในอุณหภูมิต่ำ และคงความหนืดได้ดีในอุณหภูมิสูง

และในยุคนี้จะมีน้ำมันเครื่อง group III หลายรุ่นที่ผลิตมาแบบ extended ที่สามารถยืดระยะเปลี่ยนถ่ายได้ถึง 1 ปีเหมือน Group IV PAO ขอให้ดูคำแนะนำของผู้ผลิตเป็นหลัก มักมีบอกระยะเปลี่ยนถ่ายและระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายอยู่ข้างบรรจุภัณฑ์

Group IV PAO Synthetic Lubricant
– ใช้ของเหลวพื้นฐานเป็น PAO (PolyAlphaOlefin) ที่ได้มาจากกระบวนการสังเคราะห์ที่มีต้นทุนสูง
– จัดอยู่ในกลุ่มน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ระดับสูง สูงกว่า Group III
อายุยาวที่สุด ใช้งานได้ยาวนาน 1 ปี มีเสถียรภาพสูง และทนความร้อนได้สูงมาก เมื่อยังสภาพดีและไม่หมดอายุ จะทนความร้อนใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดที่ประมาณ 310-340F หรือ 154-171C และสามารถทนโหลดในช่วงสั้น ๆ ก่อนเสียสภาพได้ถึง 450F หรือ 232C ซึ่งถือว่าสูงมาก

มีการนำ PAO ไปผสมกับน้ำมันเครื่อง group II และ group III เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการปกป้อง มักจะมีระบุไว้หน้าแกลลอนของน้ำมันเครื่องเหล่านั้นเพื่อการโฆษณา

น้ำมันเครื่อง Group IV เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการการปกป้องที่เหนือกว่า Group I, II และ III

Group V
– สารสังเคราะห์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ PAO
มีหลากหลายมากมาย และที่ได้ยินกันมากที่สุดก็มักจะเป็น Ester ที่มีคุณสมบัติในการทนสภาวะการใช้งานได้อย่างสาหัส ปกป้องดีเยี่ยม แต่ไม่เหมาะจะนำมาใช้เป็น base ในน้ำมันเครื่องของรถที่ใช้งานบนถนนทั่วไปด้วยหลายเหตุผล และมี seal compatibility ที่น้อยระดับ limited โดยมักจะถูกผสมในน้ำมันเครื่องกลุ่มอื่นเพื่อช่วยปกป้องให้ดียิ่งขึ้นเสียมากกว่า จะมีโอกาสถูกใช้ในปริมาณมากกับน้ำมันเครื่องที่ทำมาสำหรับเครื่องยนต์ของรถแข่งที่ modified มาอย่างหนักมีพละกำลังระดับเหลือเชื่อที่ไม่เน้นอายุการใช้งาน เช่น ใน dragsters พลังสูงทั้งหลาย เป็นต้น

มีการน้ำสารสังเคราะห์ทั้งหลายและ Ester ไปผสมในน้ำมันเครื่อง group III และ IV เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอยู่บ่อยครั้ง มีคุณสมบัติในการทำละลายได้ดี ช่วยให้ทำละลาย additives (สารปรุงแต่ง) ได้ง่าย ละลายชำระคราบต่าง ๆ และจะทำให้ซีลต่าง ๆ อ่อนตัวลง และมักมีระบุไว้หน้าแกลลอนของน้ำมันเครื่องที่เน้นทำมาเพื่อเครื่องยนต์สมรรถนะหลาย ๆ รุ่นอย่างชัดเจน

แม้แต่ผลิตภัณฑ์บำรุงซีลหลาย ๆ ตัวก็ยังใช้ Ester เป็นส่วนผสมที่ทำให้ซีลที่เก่าและแข็งของเครื่องยนต์ที่มีอายุมากนั้นอ่อนตัวลงและกลับมาทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยสารพัดประโยชน์ จึงทำให้เรามักจะเห็นชื่อ Ester ได้ในหลายผลิตภัณฑ์ที่เกียวข้องกับเครื่องยนต์

ข้อสังเกต
ในประเทศที่เคร่งครัดเรื่องคำว่า Synthetic นั้น น้ำมันเครื่อง Group III จะไม่ถูกจัดว่าเป็น Synthetic หรือไม่จัดว่าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ จะต้องเป็น Group IV และ Group V เท่านั้นที่จะใช้คำว่า Synthetic ได้ ยกตัวอย่างเช่นประเทศเยอรมัน ถ้ามีคำว่า Synthetic ก็จะแน่ใจได้ทันทีว่าเป็น Group IV หรือ V ส่วนถ้าอย่างในประเทศไทยนั้น ขอแค่เป็น Group III ก็ถือว่านับเป็นสังเคราะห์แล้วครับ

สรุป

น้ำมันเครื่อง Group III ถือว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานแล้ว เพราะครอบคลุมอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ทั่วไปอย่างเหลือเฟือ มีความทนทานและทนสภาวะการใช้งานได้หลากหลาย

แล้วการทนความร้อนระดับ Group IV และ V นั้นเหมาะกับใคร?

เครื่องยนต์ N/A จากโรงงานอาจจะไม่จำเป็น โหลดในห้องเผาไหม้ไม่สูง engine oil temp ไม่สูง ส่วนในรถ turbo โรงงานเดิม ๆ ทั่วไปก็ไม่มีอะไรให้กังวลที่จะใช้ Group III แต่ก็มีเรื่องควรทราบสำหรับรถ turbo โดยเฉพาะรถที่มีการปรับแต่งให้สมรรถนะสูงและใช้งานหนักเป็นประจำ เพราะลำพัง engine oil temp ที่สูงอย่างเดียวก็ว่าหนักหนาแล้ว แต่ engine oil temp ที่เราเห็นนั้นก็ไม่ใช่ทั้งหมด เรายังมีความร้อนที่ตัว turbo อีกด้วย จากอุณหภูมิไอเสียที่สูงมหาศาลตั้งแต่ระดับ 650-950C ในเครื่องยนต์หลายแบบ ประกอบกับ turbo ที่รับไอเสียตรง ๆ มาปั่น turbine อย่างต่อเนื่องนั้น จะทำให้มีความร้อนที่สูงมาก แกน turbo จะร้อนมาก ยิ่งรถ boost สูง แรงม้าสูง ทั้งปริมาณและ temp ของไอเสียที่มหาศาล จะเร่งให้ความร้อนของตัว turbo นั้นร้อนมหาศาล แกน turbo ที่หมุนอยู่ตลอดเองก็เช่นกัน ทำให้ความร้อนน้ำมันเครื่องในบริเวณรอบแกน turbo ของเครื่องยนต์ที่ modified และ tuned มาอย่างหนักนั้นสูงกว่ารถปกติอย่างมาก น้ำมันเครื่องที่ไปเลี้ยงแกน turbo จะต้องรับภาระอย่างหนักหน่วงทั้งหล่อลื่นและช่วยระบายความร้อนออกจากแกน turbo ในเวลาเดียวกัน

การใช้ของเหลวที่ปกป้องได้ดีและทนความร้อนได้สูงจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา การติด engine oil cooler ก็เป็นอีกอย่างที่จะช่วยลดอุณหภูมิรวมของระบบเครื่องยนต์ได้ จะทำให้เครื่องยนต์อยู่กับเราไปได้นาน จะทำให้ turbo ในรถที่ modified มาของเรานั้นอยู่กับเราได้อย่างทนทานมากขึ้น

การใช้น้ำมันเครื่องระดับ top ก็ดีเยี่ยม ส่วนเลือกใช้ของเหลวที่เหมาะสมตามความจำเป็น ก็จะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายที่คุ้มค่าเช่นกัน เพราะทุกอย่างล้วนเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ใช้เท่าที่จำเป็น ปกป้องได้ดี จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีเยี่ยม

แนะนำผลิตภัณฑ์

และสำหรับน้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพชั้นดีนั้นก็มีหลากหลายราคา การเลือกใช้ brand ที่มีประสบการณ์ยาวนานและพิสูจน์ประสิทธิภาพมาทั้งจากในสนามแข่งและบนถนนหนทางมายาวนาน ก็จะทำให้เราอุ่นใจ ว่าเครื่องยนต์ของเราจะได้รับการปกป้องอย่างดีเยี่ยม

Mannol 7919 Legend Extra Fully Synthetic

Mannol Legend 7919 Legend Extra Fully Synthetic เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ Group IV+V เกรดระดับ Premium จากประเทศเยอรมัน แบบ PAO-based และมีส่วนผสมของ Ester สำหรับเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลทั้งแบบปกติและมีระบบอัดอากาศ รองรับทั้ง Port Injection และ Direct Injection และทำงานเข้ากันได้กับระบบลดและกรองมลพิษทุกรูปแบบ ถ้ามาจากเยอรมันแล้วเขียนว่า Synthetic ก็ขอให้มั่นใจได้เลยว่าเป็นสังเคราะห์ group สูงอย่างแน่นอน ได้รับรีวิวระดับ 5 ดาวจากผู้ซื้อโซนยุโรปในเว็บขายสินค้าชั้นนำอย่าง eBay UK ใช้ได้อย่างดีเยี่ยมกับทั้งทั้งรถที่ผลิตในเอเชีย อเมริกา และยุโรป

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Mannol ได้ผ่านช่องทางเหล่านี้
https://hybridautocar.com/?id=150
https://www.facebook.com/MannolThailand
https://www.facebook.com/HYBRIDAUTOCAR.services

Hybrid AutoCar
ถนน รังสิต-นครนายก เลียบคลอง 3 ติดปั๊ม Esso
เปิดทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่ 9:00 – 18:00 น.
โทร. 085-800-0881
Google Maps
https://goo.gl/maps/KWqae3f6m2vDMyXe6

ส่งท้าย
สำหรับผู้เชี่ยวชาญ เรื่องเหล่านี้อาจเป็นแค่เรื่องพื้นฐานและเป็นส่วนเล็ก ๆ ของความรู้ที่ท่านทั้งหลายมี แต่สำหรับผู้เริ่มต้น เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ จึงนำมาบอกต่อกัน

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยครับ

หากเขียนผิดพลาดตรงส่วนใด ต้องขออภัยอย่างสูง ไว้จะกลับมา edit ครับ

(ห้ามคัดลอกทุกกรณี ไม่อนุญาตครับ)

About Post Author

darkcashyz

XG ถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี 2003-2004 ก่อนจะมาเป็น XGN ในปี 2006 รวมผู้คนสารพัดมากมายมาไว้ใน website และ community ของเรา ก่อสร้างมิตรภาพและชาวแก๊งมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาอย่างยาวนาน เราดีใจที่มีทุกคนเป็นเพื่อน วันนี้เรากลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวความสนุกใหม่ ๆ ขอขอบคุณสำหรับทุกมิตรภาพและกำลังใจที่มีให้กันเสมอมา Dark-Master